1. ปรับขนาดพื้นที่โฟลเดอร์ Cache Lightroom ให้เยอะขึ้น
คลิกที่ Edit > Preferences > File Handing
ปรับตรง Camera Raw Cache Setting เป็น 10 GB หรือมากกว่านี้ก็ได้หากเรามีพื้นที่ Harddisk เยอะ
***ปุ่ม Purge Cache คลิกตอนที่เราทำงานเสร็จแล้ว เพื่อล้าง Cache ให้ว่าง
2. ปรับขนาด Preview ให้เหมาะสม
คลิกที่ Edit > Catalog Settings > File Handing
Standard Preview Size ปรับเป็น 1024 px สำหรับใครที่ใช้จอใหญ่ ก็ปรับให้ใหญ่กว่านี้ก็ได้ เช่น 1440 , 1680
Preview Quality : Low
Automatically Discard 1:1 Previews เลือกเป็น After One Week (ตรงส่วนนี้โปรแกรมจะลบไฟล์ Cache อัตโนมัติให้ทุกอาทิตย์)
3. Render 1:1 Preview ก่อนที่จะลงมือโปรเซสรูป
ในขั้นตอนนี้จะเป็นการสั่งให้โปรแกรม Render รูปขนาด 1:1 เก็บไว้ใน Cache ก่อน จะได้ไม่ต้องมา Render ทีละรูป
***ตอนที่เรา Preview แล้วกด Next เพื่อดูรูปถัดไป จะมีจังหวะตอนที่โปรแกรม Loading… สัก 2-3 วินาที หากเราสั่ง Render ทั้งหมดก่อน เราจะได้ไม่ต้องรอให้ Loading ทีละรูปขณะเราโปรเซส
วิธีการทำคลิกที่ Library > Previews > Build 1:1 Previews
คลิก Build All แล้วรอสักพักใหญ่ (ขึ้นอยู่กับจำนวนรูป) ระหว่างนี้ไปเดินเล่น กินข้าว แล้วกลับมาโปรเซสรูปได้เร็วแน่นอน
4. ทำการ Optimize Lightroom Catalog
ถ้าหากว่าเราเคย import รูปเข้ามาในโปรแกรม Lightroom มาก ๆ จะทำให้ Catalog มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ก็แนะนำให้ทำ Optimize Catalog เพื่อให้โปรแกรมทำงานได้รวดเร็วขึ้น
วิธีการก็ง่าย ๆ คลิกที่ File > Optimize Catalog…
5. ถ้าจะ Upgrade Hardware แนะนำให้ Upgrade Harddisk เป็น SSD จะเห็นผลว่าโปรแกรมทำงานได้รวดเร็วขึ้นเป็นอย่างมากทั้งการ Import Export การแสดง Preview Preset ก็รวดเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน
หากบทความนี้เห็นว่ามีประโยชน์สามารถแชร์ให้เพื่อนได้นะ จากที่รีวิวนี้ใช้งานแล้วพบว่าช่วยให้เราทำงานได้เร็วขึ้นไม่ต้องรอโหลดไฟล์ นานจึงนำมาแบ่งปันกัน หากสนใจอ่านเทคนิคการใช้กล้องหรือความรู้การถ่ายภาพอื่น ๆ ลองเข้าไปอ่านได้ที่ http://iamnp.com/hatyai/improve-lightroom-speed/ นะครับเขียนอธิบายดีเหมือนกันครับ